เรียนครั้งที่ 2
บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันศุกร์ ที่ 21 มิถุนายน 2556
ครั้งที่ 2 เวลาเรียน 13.10 - 16.40 น.
เรียนเรื่อง : ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
สิ่งที่ได้รับจากการเรียนในครั้งนี้
เด็กปฐมวัยเรียนรู้ภาษา จากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัวทั้งสิ่งแวดล้อมที่บ้าน
และโรงเรียน เด็กจะเรียนรู้การฟังและการพูดก่อน เพราะการฟังและการพูดเป็นของคู่กัน
เป็นพื้นฐาน
ทางภาษา กล่าวคือ
เมื่อฟังแล้วก็ย่อมต้องพูดสนทนาโต้ตอบได้
การเรียนภาษาของเด็กปฐมวัยไม่จำเป็นต้องอาศัยการสอนอย่างเป็นทางการ
หรือตามหลักไวยกรณ์ แต่จะเป็นการเรียนรู้ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว
หรือเป็นการสอนแบบธรรมชาติ
ความสำคัญของภาษา
1. เด็กเกิดมาโดยมีศักยภาพในการเรียนรู้
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์
โดยปราศจากความสามารถพิเศษทางด้านการเรียนทางใดทางหนึ่ง 2. การเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงการเรียนภาษาเกิดขึ้น โดยการที่สิ่งแวดล้อมเป็นผู้ปรับพฤติกรรมผู้เรียน
3. พฤติกรรมทั่วไปรวมทั้งพฤติกรรมภาษา ถูกปรับโดยแรงเสริมจากการตอบสนองที่เกิดขึ้นจากสิ่งเร้า
4. ในการปรับพฤติกรรมที่ซับซ้อนอย่างเช่นภาษา จะมีกระบวนการเลือกหรือทำให้การตอบสนองเฉพาะเจาะจงขึ้น
พัฒนาการทางภาษา
1. ความพึงพอใจแห่งตน (The Autism
Theory หรือ Austistic Theory)
2. การเลียนแบบ (The Imitation
Theory)
3. เสริมแรง (Reinforcement
Theory)
4. การรับรู้ (Motor Theory of
Perception)
5. ความบังเอิญจากการเล่นเสียง (Babble
Buck)
6. ชีววิทยา (Biological Theory)
7. การให้รางวัลของพ่อแม่ (Mother
Reward Theory)
บทสรุปนะคะ
การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม การเสริมแรง พัฒนาการทางภาษาเกิดขึ้นจากความพึงพอใจแห่งตน การเลียนแบบ การได้รับการเสริมแรง ฯลฯ พัฒนาการทางภาษาของเด็กในระยะแรกประมาณ 1 เดือน เด็กสามารถจำแนกเสียงต่าง ๆ ได้ และจะพัฒนาก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆจนประมาณ 4 – 5 ปีเด็กจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยหรือองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางภาษาของเด็ก ได้แก่ วุฒิภาวะ สิ่งแวดล้อม สถานภาพทางสังคม ฯลฯ อย่างไรก็ตามเด็กปฐมวัยจะเรียนรู้ภาษาได้ดี เมื่อเด็กมีความพร้อม ซึ่งความพร้อมของเด็กสามารถสอนหรือเตรียมให้แก่เด็กได้โดยการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมให้แก่เด็ก นอกจากนี้นักจิตวิทยาได้ให้แนวคิดไว้ว่าภาษาและการคิดมีความสัมพันธ์สอดคล้องกันอย่างใกล้ชิด เพราะมนุษย์เมื่อมีการสื่อสารจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ โดยวิธีการจำ เด็กอายุขวบครึ่งเริ่มมีพัฒนาการของภาษาในส่วนที่รับเสียงและเปล่งเสียงพูด แต่การพูดจะพัฒนาค่อนข้างช้ากว่าการฟัง
ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนครั้งนี้
1. รู้และเจ้าใจการเรียนรู้ภาษาของเด็กนั้นเรียนรู้ได้เร็วมากเพราะเซลล์สมองและการเชื่อมต่อของเซลล์
สมองมีความพร้อมสูงมาก
2. รู้และเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ภาษาของเด็กจะผ่านการฟัง กิจกรรมที่จัดควรเป็นกิจกรรมที่เป็นการ
อ่านให้เด็กฟัง เล่านิทานให้เด็กฟัง และให้อ่านในเรื่องที่เด็กสนใจ
3. รู้และเข้าใจการให้เด็กเรียนรู้ภาษา สิ่งที่นำมาให้เด็กได้เรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นคำ ประโยคต่างๆ
4. รู้และเข้าใจ และสามารถเป็นสื่อในการเรียนการสอบและพัฒนาการตัวเราเพื่อเอาไปใช้ในการเรียนการสอนของเราและรู้เข้าใจการพัฒนาการของตัวเด็กมาขึ้นในการดูแลตัวเด็ก
เรียบเรียงโดย นางสาวสุภาวดี พรมภักดิ์ เวลา 23:10 น.
สมองมีความพร้อมสูงมาก
2. รู้และเข้าใจกระบวนการเรียนรู้ภาษาของเด็กจะผ่านการฟัง กิจกรรมที่จัดควรเป็นกิจกรรมที่เป็นการ
อ่านให้เด็กฟัง เล่านิทานให้เด็กฟัง และให้อ่านในเรื่องที่เด็กสนใจ
3. รู้และเข้าใจการให้เด็กเรียนรู้ภาษา สิ่งที่นำมาให้เด็กได้เรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นคำ ประโยคต่างๆ
4. รู้และเข้าใจ และสามารถเป็นสื่อในการเรียนการสอบและพัฒนาการตัวเราเพื่อเอาไปใช้ในการเรียนการสอนของเราและรู้เข้าใจการพัฒนาการของตัวเด็กมาขึ้นในการดูแลตัวเด็ก
เรียบเรียงโดย นางสาวสุภาวดี พรมภักดิ์ เวลา 23:10 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น